7/10/2011

Insurance People ศรัทธาแรกที่ต้องมีคือศรัทธาในตัวเอง จุฑารัตน์ จันทร์ขาว

“อินชัวร์ พีเพิ่ล” ประจำฉบับนี้ถือเป็นคนคุณภาพอย่างแท้จริง ด้วยรางวัลเกียรติคุณ “สุดยอดนักขาย วานิช ไชยวรรณ” ประจำปี 2554 เป็นเครื่องการันตี เธอคือ “จุฑารัตน์ จันทร์ขาว” ผู้จัดการภาคอาวุโส สาขาอโศก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ที่มาบอกเล่าถึงความสำเร็จบนเส้นทางอาชีพตัวแทนประกันชีวิต กระทั่งรับรางวัลที่สุดแห่งความภาคภูมิใจสูงสุดนี้
“เมื่อก่อน พี่ทำงานมาหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่รับเงินเดือนประจำ ด้วยความที่จบนิเทศศาสตร์ ทางด้านสื่อ จึงได้เข้าทำงานกับบริษัทสิ่งพิมพ์แห่งหนึ่ง และได้ทำงานที่ใฝ่ฝัน คือโฆษณา แต่เมื่อเปรียบเทียบถึงรายได้ และการดำเนินชีวิต ก็เห็นว่าการทำงานบริษัทนั้น ไม่สามารถสร้างฝันและสร้างอนาคตได้ในเวลาที่เราต้องการ”
“จุฑารัตน์” เล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกการเป็นตัว แทนประกันชีวิตเป็นอาชีพหลัก ซึ่งแท้จริงแล้วเธอเริ่มขายประกัน ชีวิตตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เป็นการเรียนควบคู่กับการทำงานไปด้วย เพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง จึงคิดหารายได้พิเศษ ประจวบ กับมีคนมาชวนไปขายประกันชีวิต เธอจึงได้ร่วมงานกับไทยประกันชีวิตตั้งแต่นั้น
“สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ได้คิดวิเคราะห์ในเรื่องของรายได้และค่าใช้จ่ายตลอดเวลา เพราะพี่เป็นคนวางแผนการใช้จ่ายอยู่แล้ว ตั้งแต่ เมื่อ 13 ปีที่แล้ว เมื่อเทียบรายได้และค่าใช้จ่ายระหว่างการขายประกันชีวิตกับการทำงานประจำ ก็เลยตัดสินใจออกจากงานประจำ และมาทำตัวแทนเต็มเวลาที่ไทยประกันชีวิต”
เมื่อย้อนถามถึงทัศนคติก่อนจะมาเป็นตัวแทน เธอบอกว่าไม่รู้จักประกันชีวิตเลย และไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่จะทำประกันชีวิต อีกทั้งรู้สึกไม่ดีกับตัวแทนขายประกัน เพราะดูเหมือนว่าเขามาเพื่อหวังผลประโยชน์ จึงไม่รู้สึกอยากขายประกัน เลย แต่พอได้เข้าไปศึกษา อบรม ถึงได้เข้าใจในเรื่องของประกันชีวิตอย่างแท้จริง และคิดว่าประกันชีวิตจำเป็นมากสำหรับทุกคน ซึ่งเธอได้ลองไปอบรมหลายๆ ที่
จึงได้รู้จักกับพี่สาวของเพื่อนที่ไทยประกันชีวิตจึงเข้ามาทำที่นี่ด้วยกัน พอได้เข้ามาที่บริษัททำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนครอบครัว ทุกวันนี้เธอก็ได้ใช้ความรู้สึกแบบนั้นกับทีมงาน ด้วยการเข้าไปอยู่ในใจของทีมงาน ทุกคน โดยมีคติประจำใจ คือ ศรัทธาแรก ที่ต้องมี คือศรัทธาในตัวเอง ว่าต้องทำได้ จนทำให้เธอประสบความสำเร็จ และยังสามารถทำได้แล้วได้อีกต่อเนื่อง
“พี่ทำอาชีพนี้มากว่า 21 ปี แล้ว และก็ได้เติบโตตามลำดับ พี่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย แต่รางวัลที่ภาคภูมิใจที่สุด คือ รางวัลเกียรติคุณสุดยอดนักขาย วานิช ไชยวรรณ ที่เพิ่งได้รับในปีนี้ ปัจจุบันพี่มีจำนวนทีมงาน 7 คน และพร้อมที่จะปั้นให้เป็นดาวต่อไปอย่างมั่นคง”
สำหรับเป้าหมายในปีนี้ คือ การสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้ จนได้อันดับ 1 มาครอง และเป้าหมายต่อไปก็อยากจะทำลายสถิติตัวเองอีกครั้ง เพราะเบี้ยปีนี้ทำได้ 32 ล้านบาท ในปีต่อไปจึงต้องได้มากกว่านี้
“ส่วนเป้าหมายในอนาคต คือ อยากจะสร้างคนให้เข้ามาอยู่ในธุรกิจนี้ให้มากที่สุด เพราะตอนนี้พี่เป็นนักขายที่รายได้เยอะที่สุด และค่าตัวแพงที่สุดในธุรกิจนี้ เรียกว่ารายได้เยอะที่สุดสำหรับปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ โดยปีที่แล้วเก็บเบี้ยประกัน รับได้ 30 กว่าล้านบาท ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาพี่นำเงินเข้าบริษัท 70 กว่าล้านบาท พี่มี ความมุ่งมั่นและมีความหวังว่า จะสร้างคน ให้เป็นนักขายเงินล้าน Million Dollar Round Table (MDRT) ให้มากที่สุดในประเทศไทย”
ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการทำงานนั้น จะใช้ กลยุทธ์ก่อนการขาย หรือคนที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าก็ต้องบริการอย่างเต็มที่ บริการไปก่อน เพราะเมื่อเราบริการดีสุดท้ายลูกค้า ก็ต้องเลือกทำประกันกับเราแน่นอน นอก จากนี้ด้วยความที่ตัวเองชอบเรียนศึกษาหาความรู้ จึงศึกษาด้านการเงิน และการลงทุนด้วย โดยที่อบรมเองบ้าง และทางบริษัทก็ช่วยสนับสนุนส่งไปอบรมบ้าง ทำให้ปัจจุบันเป็นวิทยากรให้บริษัทด้วย และได้ปรับเปลี่ยนตัวเองมาเป็นนักวาง แผนการเงินขั้นพื้นฐาน พร้อมทั้งช่วยบริษัท ในการพัฒนาหลักสูตรด้วย
ถามถึงปัจจัยกระทบต่อการทำงาน สำหรับตัวเองถือว่าไม่มีผลประทบเลย แต่หากมองสภาวะทั่วไป โดยส่วนตัวมองว่าไม่ว่าจะเกิดปัญหาเศรษฐกิจ เม็ดเงินยังอยู่นิ่งๆ แต่ประกันชีวิตยังเป็น “ซีเรียส มันนี่” หรือ เงินที่มีความจำเป็นต้องมี และสามารถเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ
“ทุกวันนี้ยิ่งเศรษฐกิจตกต่ำเท่าไร มีวิกฤตการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น หรือเกิดมรสุม ของชีวิต ประกันชีวิตยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นของ ทุกคน ดังนั้น เราก็ต้องเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสให้ได้”

No comments:

Post a Comment

Search for content in this blog.

Life Insurance