ทำไมคุณต้องประกันภัยรถ ?
บางครั้งปัญหาจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย อาจทำให้คุณต้องเสียเงินค่าซ่อมแซมจำนวนมาก แต่หากรถคุณมีประกันก็เหมือนคุณมีบัตรประกันสังคมรถหรือประกันชีวิต คุณย่อมสามารถไปพบแพทย์ได้ทุกเมื่อที่เจ็บป่วย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพโดยไม่ต้องเสียค่าบิการใด ๆ อีกเช่นกันกับการระกันภัยรถคุณสามารถขับรถได้อย่างมั่นใจ และสบายใจว่าเมื่อใดหากคุณโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุโดยที่เป็นฝ่ายผิด หรือมีบุคคลได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ คุณมีผู้รับผิดชอบแทนเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนซื้อประกันคุณควรตรวจสอบ บริษัทประกันภัยที่จะซื้อก่อนดีกว่า
ใครเป็นผู้ได้รับการคุ้มครองจากประกันภัย
1. ตัวคุณ
2. คู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก
3. รถของคุณที่เสียหายจากอุบัติเหตุ
4. รถของคู่กรณีซึ่งเป็นฝ่ายถูกและได้รับความเสียหายจากอุบัตเหตุ
5. บุคคลที่สามซึ่งได้รับผลจากอุบัตเหตุครั้งนั้น (ตามประเภทของประกัน)
บริษัทประกันภัย
ทุกวันนี้มีบริษัทประกันภัยรถยนต์ให้คุณเลือกรับบริการมากมายดังนั้นคุณควรศึกษาบริษัทที่คุณสนใจก่อนตัดสินใจด้วยว่า บริษัทนั้นมีประวัติการให้บริการลูกค้าดีไหม? ใช้เวลาไปถึงที่เกิดเหตุนานเกินไปหรือเปล่า? รับผิดชอบตอารประกันภัยหรือมีการหลบเลี่ยงมากน้อยแค่น้อยแค่ไหน? วางใจได้หรือไม่? พนักงานให้บริการด้วยความสุภาพหรือไม? โดยข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถหาไดด้จากเพื่อนฝูงที่ใช้บริการหรือจากข่าวสารทั่วไป ซึ่งบริษัทประกันภัยที่ดีจะให้บริการปรึกษาปัญหาด้านกฎหมาย ในกรณีที่คุณมีปัญหาจาก อุบัติเหตุด้วย ดังนั้นการเลือกบริษัทประกันภัยทที่ดีมีความสำคัญมากเช่นกัน
ค่าบริการที่แพงอย่างดุเดือดควรสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลที่คุณจะได้รับ และเงินชดใช้ เมื่อรถสูญหายอย่างคุ้มค่า
ก่อนตกลงซื้อประกันรถ ขั้นแรกคุณต้องมั่นใจว่าบริษัทนั้นมีความมั่นคงพอ โดยถามพนักงานขายประกันเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบริษัท เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบริษัทประกันภัยมากมายถูกปิดลง เนื่องมาจากความผดพลาดทางการเงิน และการล้มละลาย ระวังจะเสียเงินฟรี !
ข้อต่อมาที่คุณควรศึกษาคือ เบี้ยประกัน เบี้ยประกันที่แตกต่างย่อมมีผลถึงระดับความคุ้มครองที่คุณจะได้รับ ควรเลือกประกันที่เหมาะสมกับสถานะการเงินและรูปแบบประกันที่เหมาะสมกับสถานะการเงินและรูปแบบที่คุณควรได้รับการคุ้มครอง
พื้นฐานการประกันภัยมักแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน
แบบ ทั่วไปที่รถทุกคันต้องประกัน
การคุ้มครอง คุ้มครองผู้บาดเจ็บจากรถ
แบบ ประเภท 1
การคุ้มครอง คุ้มครองรถของผู้ประกัน รถของคู่กรณี
แบบ ประเภท 2
การคุ้มครอง คุ้มครองรถของผู้ประกัน
แบบ ประเภท 3
การคุ้มครอง คุ้มครองรถของคู่กรณี
ให้พนักงานขายประกัน อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของแบบประกันภัย และผลคุ้มครองที่คุณจะได้รับ เบี้ยประกันที่คุณต้องจ่าย และหากมีรายละเอียดข้อไหนที่คุณไม่เข้าใจ ควรถามให้กระจ่างก่อนตัดสินใจซื้อด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทประกันภัยต่าง ๆ มีการเพิ่มค่าประกันจนลูกค่ารู้สึกเหมือนโดยโกงราคา ที่เลวร้ายที่สุดคือบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่มักหาวิธีเลี่ยงการคุ้มครองด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ที่สามารถพลิกแพลงได้ภายหลัง จึงเป็นเรื่องจำเป็นมากที่คุณต้องระวังและทำความเข้าใจในเงื่อนไขเหล่านั้นอย่างละเอียด
คำแนะนำในการลดค่าธรรมเนียมของคุณ
เมื่อมั่นใจว่าคุณได้เปรียบเทียบบริษัทประกันภัย แต่ละแห่งแล้ว ควรถามพนักงานขายประกันถึงส่วนลดพิเศษที่คุณสามารถได้รับในกรณีต่าง ๆ เช่น
1. การใช้รถในราคาไม่แพงมาก สามารถลดเบี้ยประกันภัยได้
2. บางบริษัทมีส่วนลดให้สำหรับ
* รถที่ไม่ค่อยขับ
* คนขับที่ไม่สูบบุหรี่
*คนขับที่ไม่ดื่มเหล้า
3. สำหรับครอบครัวที่มีรถมากกว่าหนึ่งคัน หลายบริษัทมีนโยบายลดค่าเบี้ยประกันให้ถึง 15-20 เปอร์เซ็นต์
4. บริษัทมักจะลดราคาสำหรับ
รถขนาดเล็ก
เครื่องยนต์ที่มีลูกสูบต่ำลงมา
รถที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย
รถที่ติดระบบกันขโมย
* เบรกแอนตี้ล็อก
* ผู้ขับรถซึ่งมีประกาศนียบัตรเกี่ยวกับการขับรถปลอดภัย
*นักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยสูงตามกำหนด
*สตรีโสดที่มีอายุอยู่ระหว่าง 30-49 ปี
* ผู้ขับรถที่มีปรระวัติดี (ไม่เคยมีคดีเกี่ยวกับการชนมากกว่า 3 ปี)
5. บริษัทประกันภัยโดยทั่วไปมักคิดค่าบริการไม่ต่างกันกับบริษัทคู่แข่ง
6. ก่อนตกลงซื้อประกัน ควรถามพนักงานขายถึงราคาเบี้ยประกันว่า ตามนโยบายของบริษัทแล้วเบี้ยประกันจะสูงขึ้นไหม
หากรถคุณประสบอุบัติเหตุภายหลัง เพื่อพิจารณาก่อนตัดสินใจ
การเรียกค่าคุ้มครองเมื่อรถเกิดุบัติเหตุหรือสูญหาย
การแก้ปัญหาหลังเกิดอุบัติเหตุมักทำให้เราต้องยุ่งยาก สิ่งหนึ่งที่จะช่วยคุณได้คือ ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้
1. แจ้งความกับตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ถูกชนและมีคนบาดเจ็บ หรือชนกับมอเตอร์ไซค์ที่ไม่มีประกัน
2. แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบโดยเร็วที่สุด ทางบริษัทจะช่วยแก้สถานการณ์
และจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับคุณให้ทันที
3. ถ้าตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แจ้งรายละเอียดทั้งหมดเพื่อลงในบันทึกประจำวัน
4. ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่ประกัน
5. ให้รายละเอียดและเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่ประกัน
6. ถ้าคุณรู้สึกว่าการสอบสวนหรือการจัดการที่ได้รับไม่ยุติธรรมควรขอคำแนะนำจากทนายความก่อนนัดตกลงอีกครั้ง
ข้อมูลที่ได้นำมานี้ อ้างอิงมาจาก
ผู้เขียน อาภาภรณ์ โชติกเสถียร
หนังสือ ผู้หญิงขับรถ
สำนักพิมพ์ ยูแอนด์ไอ
.
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies
No comments:
Post a Comment